
Genres/Tags: Arcade, Jump and run, Third-person, 3D
Companies: Nintendo, Nintendo EAD
Languages: ENG/MULTI11
Original Size: 7 GB
Repack Size: 4.2 GB
🌌 Super Mario Galaxy (ซูเปอร์มาริโอ แกแล็กซี)
ชื่อญี่ปุ่น: スーパーマリオギャラクシー
วางจำหน่าย:
- ญี่ปุ่น: 1 พฤศจิกายน 2007
- อเมริกาเหนือ: 12 พฤศจิกายน 2007
- ยุโรป: 16 พฤศจิกายน 2007
เครื่องเล่น: Nintendo Wii (ต่อมามีใน Super Mario 3D All-Stars บน Nintendo Switch ปี 2020)
ผู้พัฒนา: Nintendo EAD Tokyo
🧩 เนื้อเรื่อง
เจ้าหญิงพีชจัดงานเทศกาลดาวตก (Star Festival) แต่ Browser (บาวเซอร์) มาบุกและยกปราสาทของเจ้าหญิงขึ้นไปสู่อวกาศ!
มาริโอจึงต้องออกเดินทางผ่านกาแล็กซีต่าง ๆ เพื่อช่วยเจ้าหญิง โดยมีตัวละครใหม่ชื่อ Rosalina (โรซาลีนา) และเหล่า Luma (ลูกดาวน้อย) มาช่วยเหลือ
🪐 ระบบเกมเพลย์
- ผู้เล่นควบคุมมาริโอเดินทางระหว่าง “กาแล็กซี” แต่ละด่านคือดาวเคราะห์ขนาดเล็กที่มีแรงโน้มถ่วงของตัวเอง
- ใช้ Nunchuk + Wii Remote: การกระโดดหมุน (Spin Jump) ใช้การเหวี่ยงรีโมต
- เก็บ Power Star เพื่อปลดล็อกกาแล็กซีใหม่
- มีมินิเกมหลากหลาย เช่น การขี่รังผึ้ง, เล่นบอลลูกเหล็ก, และด่านน้ำแข็ง
⭐ สิ่งเด่น
- ระบบแรงโน้มถ่วง 360° ที่ไม่เคยมีในเกมมาริโอมาก่อน
- ดนตรีออเครสตราเต็มรูปแบบ (ครั้งแรกในซีรีส์มาริโอ)
- คะแนนรีวิวสูงมาก (Metacritic 97/100)
- ได้รับรางวัล “Game of the Year” หลายสำนัก
🌠 Super Mario Galaxy 2 (ซูเปอร์มาริโอ แกแล็กซี 2)
ชื่อญี่ปุ่น: スーパーマリオギャラクシー2
วางจำหน่าย:
- ญี่ปุ่น: 27 พฤษภาคม 2010
- อเมริกาเหนือ: 23 พฤษภาคม 2010
- ยุโรป: 11 มิถุนายน 2010
เครื่องเล่น: Nintendo Wii
ผู้พัฒนา: Nintendo EAD Tokyo
🧩 เนื้อเรื่อง
Browser ลักพาตัวเจ้าหญิงพีชอีกครั้ง (แน่นอน 😂) และมาริโอต้องออกเดินทางในยานอวกาศที่ชื่อ Starship Mario เพื่อช่วยเธอ พร้อมเจอกับ Yoshi ที่กลับมาร่วมผจญภัย!
🪐 ระบบเกมเพลย์
- ยังคงระบบแรงโน้มถ่วงจากภาคแรก แต่เพิ่มความหลากหลายของด่านมากขึ้น
- มี Yoshi ช่วยขี่ในบางด่าน (สามารถกินศัตรู, ใช้ลิ้นเกี่ยว, พ่นไฟ/พ่นน้ำ/พ่นลม ฯลฯ)
- เพิ่ม Power-Up ใหม่ เช่น
- Cloud Mario (สร้างเมฆขึ้นเหยียบได้)
- Rock Mario (กลิ้งบดศัตรูได้)
- Drill (ขุดทะลุดาวเคราะห์ได้)
- ระดับความท้าทายสูงขึ้นกว่าภาคแรกมาก
⭐ สิ่งเด่น
- ระบบด่านที่มีความหลากหลายกว่าเดิม
- ดีไซน์ที่เน้น “ความสนุกของเกมเพลย์” มากกว่าเนื้อเรื่อง
- ได้คะแนนรีวิวเกือบเท่าภาคแรก (Metacritic 97/100 เช่นกัน)
- หลายสำนักยกให้เป็น “หนึ่งในเกม Platform ที่ดีที่สุดตลอดกาล”